ศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษยังคงเป็นหนึ่งในลีกที่ยึดกฎการเปลี่ยนตัวสำรองเอาไว้ที่ 3 คนต่อเกมเท่าเดิม แม้ว่าสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) จะมีกฎใหม่ออกมาให้เปลี่ยนได้ 5 คน และหลายลีกใหญ่ในยุโรปก็ตบเท้าตอบรับกฎนี้กันเป็นอย่างดี แต่พรีเมียร์ลีกยังคงยืนกรานให้ใช้งานตัวสำรองได้เพียงแค่ 3 คนเท่านั้น หลังจากผลการโหวตครั้งใหม่ แม้ว่ามีกุนซือ พรีเมียร์ลีก บางรายกลับลำมาให้เปลี่ยนตัวได้ 5 คนตามฟีฟ่าก็ตาม สำหรับผลโหวตจากเหล่าผู้จัดการทีมพรีเมียร์ลีกในครั้งล่าสุดที่ผ่านมาปรากฏว่าคะแนนออกมาเท่ากันที่ให้ปฏิบัติตามฟีฟ่าเปลี่ยนได้ 5 คน และอีกครึ่งหนึ่งยังคงยึดกฎเดิมให้เปลี่ยนแค่ 3 คน โดยตามหลักการตัดสินของพรีเมียร์ลีกนั้นมันจึงทำให้มติในครั้งนี้ตกไปตามระเบียบ เนื่องจากหากอยากให้มีการเปลี่ยนตัวได้ 5 คนตามกฏใหม่ของฟีฟ่านั้นมันต้องมีคะแนนโหวตจากบรรดากุนซือพรีเมียร์ลีกมากกว่า 14 คะแนนเสียงขึ้นไปถึงจะมีผลบังคับใช้ ทำให้สโมสรในพรีเมียร์ลีกจำใจต้องรับสภาพกับการเปลี่ยนตัวได้เพียงแค่ 3 คนตามเดิมไปโดยปริยาย ก่อนหน้านี้กุนซือระดับหัวแถวของพรีเมียร์ลีกอย่างเจอร์เก้น คล็อปป์ของลิเวอร์พูล และเป๊ป กวาร์ดิโอล่าต่างเห็นพ้องต้องกันว่าควรที่จะปรับให้เปลี่ยนได้ 5 คนตามกฎใหม่ของฟีฟ่าเพื่อเป็นการรักษาสภาพความสดและลดปัญหาบาดเจ็บของบรรดาพ่อค้าแข้งในพรีเมียร์ลีก แต่กุนซือของเชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ซึ่งยังคงจมปลักอยู่ในอันดับบ๊วยของตารางพรีเมียร์ลีก กลับเห็นตรงกันข้ามด้วยการมองว่าเป็นการสร้างความได้เปรียบให้กับบรรดาสโมสรยักษ์ใหญ่ โดยที่กุนซือทีมดาบคู่นั้นไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ของส่วนรวมเลย อย่างไรก็ดีมติของพรีเมียร์ลีกในครั้งล่าสุดนี้เปิดไฟเขียวให้ส่งรายชื่อนักเตะสำรองข้างสนามได้เพิ่มอีก 2 คนจากเดิมที่ให้เพียงแค่ 7 คน ทั้งนี้ทั้งนั้นทางพรีเมียร์ลีกก็หวังว่าการเพิ่มโควตารายชื่อตัวสำรองในครั้งนี้จะเป็นการเปิดโอกาสให้บรรดาแข้งดาวรุ่งของอังกฤษได้มีโอกาสลงวาดลวดลายในสนามกับเขาบ้าง แต่การที่พรีเมียร์ลีกยังคงยืนกรานอย่างหนักแน่นให้มีการเปลี่ยนตัวสำรองได้เพียงแค่ 3 คนเท่าเดิมนั้นมันทำให้เหล่ากุนซือในพรีเมียร์ลีกต้องพากันคิดหนักไม่น้อยกับการต้องนำระบบโรเตชั่นเข้ามาใช้ในการปรับกลยุทธแต่ละแมตช์เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหานักเตะได้รับบาดเจ็บจากโปรแกรมลูกหนังของเมืองผู้ดีที่มีการฟาดแข้งกันอย่างถี่ยิบ […]